วัตรปฏิบัติประจำวัดป่าค้อเจริญธรรม

1. ถ้ามานั่งสมาธิช้ากว่า ๕นาที ฉัน ๑ถุง ทั้งเช้าและเย็น เว้นเป็นไข้ และให้พิเศษบางอย่างเช่น                      

   ไปบุญกฐินและผ้าป่าให้อภัย ๑วัน                               

2. เดินจงกรมไม่ครบชั่วโมง  ฉัน ๑ถุง  ทั้งเช้าและเย็น เว้นเป็นไข้ และให้พิเศษบางกรณี เช่น

     ติดเวรอุปฐาก หรืองานจำเป็นที่ต้องทำให้เสร็จทันเวลา

3. ถ้าเปลี่ยนสายบิณฑบาต ก่อนครบ ๑๕ วัน อย่างน้อยให้ฉัน ๑ ถุง ต่อไปจนกว่าจะครบ ๑๕ วัน

     เว้นเป็นไข้ และให้พิเศษบางอย่าง เช่น ,ได้รับนิมนต์และไปแทนกัน

4. ธุดงค์วัตรต่างๆ สมาทานแล้ว ต้องทำให้ได้ ๑๕ วัน  อย่างน้อย  ถ้าทำไม่ได้ ฉัน ๑ ถุง   เว้นเป็นไข้  

      และให้พิเศษบางข้อวัตร เช่น ,อยู่กลางแจ้ง  อยู่ป่าช้า หรือไม่นอน

5. เวลานั่งสมาธิ ให้เอาไม้ขีดวางบนหัว ตกตอนเย็น ๒ ครั้ง ฉัน ๑ ถุง  ตอนเช้าตก ๓ ครั้ง  ฉัน ๑ ถุง

     เว้นแต่รับได้

6.ไม่มากวาดศาลาหรือสถานที่อื่นๆ  งดฉันน้ำปานะ   เว้นแต่มีกิจของสงฆ์ทำแทน   และเป็นไข้

7. วันพระ พิเศษ ไม่นอน  ใครนอนงดฉันน้ำร้อน  เว้นแต่เป็นไข้ และให้โอกาสพิเศษในบางบุคคล

    เช่น ผู้แก่ชราภาพ,ผู้ป่วยระยะ พักฟื้น หรือบุคคลอายุ ต่ำกว่า ๑๕ ปี แต่ถึงอย่างนั้นก็ให้ถึง ๖ ทุ่มขึ้นไป

8. หน้าที่ตีระฆัง  ถ้าตีช้าไม่ตรงเวลา   ฉันข้าวเปล่า

9. จะสมาทานธุดงค์ต่างๆเช่น ธุดงค์๑๓ มี อดข้าวเป็นต้น ต้องแจ้งให้ประทานสงฆ์ทราบก่อน

    แล้วให้เขียนชื่อไว้ที่กระดานศาลา                                                      

10. ใครสูบบุหรี่  ฉันข้าวเปล่ามวนละวัน

11.ห้ามจับกลุ่มคลุกคลีคุยกันเรื่องติรัจฉานคาถา  คือเรื่องทางโลก เช่นเรื่องหญิง เรื่องชาย

      เรื่องรัก เรื่องใคร่ เป็นต้น

12. เวลานั่งสมาธิทำวัตรและฟังเทศน์  ห้ามลุกออกไปข้างนอก เว้นแต่มีกิจจำเป็นจริงๆ เช่นปวดปัสสาวะ

      หรืออุจจาระ อย่างหนัก เว้นเป็นไข้  ถึงอย่างนั้นก็ควรออกไปในระหว่างครบชั่วโมง ช่วงนั่งสมาธิ

      หรือทำวัตร และฟังเทศน์  ถ้าทำไม่ได้ฉัน ๑ ถุง

13. ห้ามนอนกุฏิหลังเดียวกัน  ถ้าใครนอนฉัน ๑ ถุง ( หมดทุกองค์ที่ไปนอนด้วยกัน) นอกจากเจ็บป่วย

14. ห้ามฟังวิทยุ  เทป  ข่าวสารต่างๆทางโลก เช่นเพลงละครเป็นต้น  และห้ามดูข่าวสาร

       การบันเทิงต่างๆ ทางโลก เช่น , หนังสือพิมพ์ หรือ นิตยสารต่างๆ เป็นต้น  ถ้าทำฉัน ๑ ถุง

15. องค์ใดทำผิดข้อวัตรปฏิบัติและธรรมวินัย  ภิกษุสงฆ์ว่ากล่าวตักเตือนไม่ยอมรับ

      และทำความโกรธให้เกิดขึ้น   ฉัน  ๑ ถุง

16. เอาอาหารให้อิ่มและฉันหมดพอดี เพื่อจะให้อาหารทั่วถึงโดยชอบธรรม

17. ห้ามมาครองผ้าในศาลา เวลา  03.00 น.  เพราะเสียงดังรบกวนคนอื่น   ผ่าฝืน  ฉัน ๑ ถุง

18. ห้ามหยอกล้อ ตีกัน  ทั้งทำเล่นและทำจริง  ทำเล่น ฉัน ๑ถุง    ทำจริง ฉันข้าวกับเกลือ

      (ทำเล่น ๑ ครั้งต่อฉัน ๑ถุง ๑ครั้ง    ทำจริง๑ครั้งต่อ ฉันข้าวกับเกลือ ๑ ครั้ง)

19. ห้ามพูดเท็จ  คือพูดคำไม่จริง

20. ห้ามพูดส่อเสียด คือพูดยุยงส่งเสริมให้คนอื่นทะเลาะวิวาทกัน  เช่นเอาคำของคนอื่น

      ไปขยายความในทางที่จะให้เกิดความ เข้าใจผิด ซึ่งกันและกัน   ถ้าทำฉัน ๑ ถุง

21. ห้ามพูดคำหยาบ คือคำด่ากัน หรือออกชื่อที่ไม่จริง เช่น , ไอ้หมา,ไอ้ห่า,ไอ้เหี้ย,ไอ้หนวก,

      ไอ้ตาบอด,ไอ้สัตว์,ไอ้นรก,หรือกูๆมึงๆ เป็นต้น    ถ้าพูด ฉัน ๑ ถุง

22. ห้ามพูดเพ้อเจ้อ คือ พูดมากเกินไป จนทำให้คนอื่นรำคาญ ในเวลาอันไม่สมควร เช่น

       เวลาไปบิณฑบาต ฟังธรรม จัดอาหาร  กวาดศาลาหรือตามกุฏิ    ถ้าภิกษุสามเณรกล่าวตักเตือนแล้ว

      ไม่ยอมรับฟัง  ยังพูดอยู่   ฉัน ๑ ถุง

23. เวลาเดินจงกรม ห้ามทำกิจต่างๆ  เช่น, ถักถลกบาตร, ท่องปาฎิโมกข์, อ่านหนังสือต่างๆ เป็นต้น

       ถ้าทำ ฉัน  ๑ ถุง

24. ห้ามมีโทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องสื่อสารต่างๆ เป็นของส่วนตัว    ถ้ามีฉัน ๑ ถุง

                                                                                ฉัน  ๑  ถุง คือฉันข้าวกับอาหาร ๑ ถุง

หมายเหตุ:  วัตรปฏิบัติทั้งหมดนี้ อาจเปลี่ยนแปลงบางกาลบางสมัย และให้โอกาสแก่ผู้มาใหม่

เพื่อปรับตัวปรับใจใส่ข้อวัตร  และ    “ไม่ห้ามผู้ที่จะเคร่งครัดไปกว่านี้

Advertising Zone    Close